[Review] หนังสือ FAULT LINES : บทที่ 1 ให้พวกเขากินเครดิต

เนื่องจากช่วงนี้ผมกำลังสนใจอยากรู้เรื่องของ วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ผมอาศัยอยู่ ผมจึงควานหาหนังสืออยู่หลายเล่ม และก็มาเจอเล่มนี้ ” FAULT LINES ” ของ Raghuram G. Rajan ซึ่งเขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มองเห็น “รอยเลื่อน” ต่างๆที่ดูผิดปกติ ในขณะที่ประชาชนทุกคนกำลังมีความสุขอยู่กับภาพลวงตาในยุคสมัยที่เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและ American Dream ดูท่าจะเป็นจริง ซึ่งในตอนนั้น เขาถูกมองว่าเป็นพวกแปลกแยก บ้าบอ เพ้อเจ้อ แต่ไฉนเลยรอยเลื่อนที่เขาเห็นนั้นได้สั่นสะเทือนและปะทุออกมา จนยากเกินเยียวยาแถมมีแนวโน้มที่จะแผ่ขยายต่อไปเรื่อยๆ หากแต่ละประเทศยังคงรักษาความมักง่ายอยู่ในระดับเดิม
ในหนังสือเล่มนี้ ได้เเบ่งเป็น 10 บท ซึ่งผมจะค่อยๆสรุปไปทีละบท

บทที่ 1 : ให้พวกเขากินเครดิต

ในตอนต้น Rajan ได้กล่าวถึงเรื่อง

” ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่ถ่างกว้างขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยมีรากมาจากความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ”

ซึ่งเราจะเห็นได้จากความจริงที่ว่า คนอเมริกันจำนวนมากหยุดการศึกษาไว้แค่ในระดับ High School และออกมาทำงาน

ส่งผลให้ในระยะยาวนั้นคนที่มีการศึกษาที่ดีกว่า (จบอุดมศึกษา) ได้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่ามาก

จากปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ รัฐบาลและนักการเมืองต่างจึงต้องหามาตรการและนโยบายเพื่อลดช่องว่างเหล่านั้นลง

วิธีที่ดีที่สุด คือ การสนับสนุนทางด้านการศึกษา แต่ วิธีนี้ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล รวมถึงต้นทุนสูง ผลตอบแทนต่ำ  ( สำหรับพรรคการเมืองที่ต้องการเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนผู้ได้รับผลประโยชน์จากนโยบาย )

ดังนั้น รัฐบาลจึงเลือกอีกทางนึง ซึ่งเห็นผลเร็วกว่า คือ การสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมถึงการปล่อยกู้ในภาคการเงิน

การสนับสนุนจนเกินตัวและเกินไปจากรัฐบาลในครั้งนี้ก่อให้เกิด การละหลวมในการปล่อยกู้ ปล่อยกู้โดยปราศจากการตรวจสอบความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งในขณะนั้นปัญหาเหล่านี้ถูกซ่อนเร้นภายใต้ราคาบ้านที่สูงขึ้นจากความต้องการบ้านตามนโยบาย American Dream ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำ แต่สุดท้ายเมื่อราคาบ้านหยุดพุ่งและคนเริ่มผิดนัดชำระหนี้กันมากขึ้น ปัญหาที่ซ่อนอยู่นั้นเริ่มคลี่ตัวออกมาให้เห็นจนชัดเจนแจ่มแจ้งดั่งที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้

และนี่เป็นเพียง “รอยเลื่อนแรก” เท่านั้น ที่ Rajan ได้กล่าวไว้ในบทที่ 1 หากแต่ยังมีรอยเลื่อนอื่นๆอีกที่ต้องติดตามในบทถัดไป 🙂